ทริคการออกกำลังกาย
Free Trial
Tips

ทริคการออกกำลังกาย

คุณเอาทริคการออกกำลังกายแบบนี้ไปใช้ที่บ้านได้หรือไม่?

09 ม.ค. 2566

ยินดีด้วยสำหรับการเริ่มต้น! เรารู้ว่าคุณคิดอะไรอยู่: ฉันจะบรรลุเป้าหมายการออกกำลังกายเร็วขึ้นได้อย่างไร? ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย หาทางลัดให้การออกกำลังกายของฉันเถอะ ได้โปรด! แต่อันดับแรก หากคุณยังไม่ได้อ่านเคล็ดลับเกี่ยวกับเป้าหมายฟิตเนสของเรา อ่านได้ ที่นี่


  • มาปรากฏตัว
  • เริ่มทีละขั้นตอน

เพราะคุณรู้อยู่แล้วว่าที่พวกเขาพูดถึงการเดินทางเป็นพันไมล์ คำใบ้คือ มันเริ่มต้นจากก้าวแรก แค่วางเท้าข้างหนึ่งต่อจากอีกข้างเพื่อก้าวต่อไปเรื่อยๆ ทีนี้เรามาดูทริคการออกกำลังกายยอดนิยมกันดู

ทริคการออกกำลังกายสนุกๆ ยอดนิยมสี่อันดับแรก


#1 ทำท่าสควอทขณะดูทีวี หรือขณะแปรงฟัน


ทำไมน่ะหรอ? เนื่องจากสควอทนั้นยาก และมือใหม่อยากจะรีบทำให้จบทั้งที่ยังไม่ทันเริ่มด้วยซ้ำ แต่เดี๋ยวก่อน ฉันก็แค่พาตัวเองไปสนใจอย่างอื่นและก็ทำท่าจบหลังจากที่ฉันแปรงฟันและบ้วนปากเสร็จ! แต่ที่จริงแล้วการสควอทเป็นการออกกำลังกายที่ใช้หลายส่วนของร่างกายในท่าเดียวและเป็นท่าออกกำลังกายพื้นฐานท่าหนึ่ง การออกกำลังกายแบบ compound คือการใช้กลุ่มกล้ามเนื้อและข้อต่อหลายส่วนพร้อมๆ กัน เมื่อคุณทำท่าสควอท คุณจะได้บริหารกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า ต้นขาด้านหลัง ก้น แกนกลางลำตัว หลังส่วนล่าง กระดูกเชิงกราน เข่า น่อง และข้อเท้า อย่างที่คุณเห็น อาจเกิดข้อผิดพลาดได้หลายอย่างหากคุณพยายาม “ไม่” ทำไปพร้อมๆ การแปรงฟัน ตั้งใจหน่อย! จัดระเบียบร่างกายให้ดีและคุณจะได้รับผลลัพธ์เป็นความแข็งแกร่งและความยืดหยุ่นของร่างกายส่วนล่าง จากนั้นก็ค่อยๆ มุ่งไปสู่เป้าหมายการออกกำลังกายของคุณ - และใช้ชีวิตตามปกติ - ให้ราบรื่นราวกับรถลิโมอันหรูหราที่ทรงพลัง

ประเด็นสำคัญ #1: สควอทเพื่อความสำเร็จ แต่แปรงฟันของคุณก่อน

#2 ปฏิเสธสิทธิ์ที่จอดรถวีไอพี


ร่างกายของคุณถูกสร้างมาเพื่อการเคลื่อนไหว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องดีหากคุณไม่มีสิทธิ์ในที่จอดรถพิเศษที่ยิมหรือที่ทำงาน และโดยเฉพาะในห้างสรรพสินค้า! จอดรถให้ไกลขึ้น – แต่ควรอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยเสมอ เป็นลานจอดรถที่มีระบบรักษาความปลอดภัยและมีเจ้าหน้าที่ดูแล – แล้วใช้วิธีการเดิน แม้ว่าระยะทางจะเพิ่มอีกเพียง 100 เมตร (รวมทั้งหมดแล้ว) แต่คุณจะไปถึงที่หมายได้เร็วขึ้นด้วยเพราะสามารถหลีกเลี่ยงรถติดตรงทางเข้าได้ เราชอบทริคนี้มากเพราะ งานวิจัยบอกเราว่าการเดินเป็นประจำ (ในที่นี้รวมถึง การเคลื่อนไหวต่างๆ) ช่วยลดความดันโลหิตและปรับระบบประสาท ทำให้เราโกรธและไม่พอใจน้อยลงได้ เริ่มต้นวันใหม่อย่างอารมณ์ดี เพียงแค่ก้าวเท้าของคุณไปข้างหน้า

ประเด็นสำคัญ #2: การเดินทุกวันช่วยให้ห่างไกลแพทย์

#3 ใช้บันได


ข้อนี้ก็ค่อนข้างไม่ง่ายเท่าไร คำแนะนำปกติคือจอดรถ เดิน และใช้บันไดแทนการใช้ลิฟต์ ถ้าคุณสามารถเอาการเดินและการขึ้นบันไดมารวมเข้าด้วยกันได้ คุณก็กลายเป็น Rocky Balboa หรือราชากำปั้นทุบสังเวียนไปแล้วล่ะ แต่สำหรับพวกเราส่วนใหญ่ที่ไม่ได้ฝึกซ้อมเพื่อชิงแชมป์มวยโลก เราจะเริ่มกันทีละก้าวก่อน หากคุณเดินมาจากรถและวอร์มร่างกายแล้ว ให้เริ่มด้วยการขึ้นบันไดหนึ่งหรือสองรอบในช่วงแรก หรือประมาณ 10 นาทีหรือน้อยกว่านั้น ถ้าคุณรู้สึกว่ายังไม่ได้วอร์มร่างกาย ขอแนะนำให้เริ่มด้วยการยืดกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังและด้านหน้าเบาๆ หรือบริหารเข่าและข้อเท้า พักระหว่างชั้นหากคุณรู้สึกหายใจไม่ทัน อย่าลืมคูลดาวน์หลังจากการขึ้นบันได งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการขึ้นบันไดช่วยเพิ่มพลังงาน ดีต่อสุขภาพของหัวใจ และช่วยป้องกันโรคเบาหวานได้ นอกเหนือจากประโยชน์พื้นฐานทาง สรีรวิทยาแต่จำไว้ว่าอย่าวิ่งขึ้นบันไดก่อนที่คุณจะเรียนรู้วิธีการเดินที่ถูกต้อง หรือเข้าร่วมคลาสแอโรบิกสเต็ปขั้นพื้นฐาน 

ประเด็นสำคัญ #3: อย่ารีบที่จะไปถึงเป้าหมายฟิตเนสของคุณ

#4 ใช้ลูกบอลออกกำลังกายเป็นเก้าอี้ทำงาน


ทริคนี้มีมาตั้งแต่ต้นปี 2000 และยังคงเป็นที่นิยมเรื่อยมา ว่ากันว่าการใช้ลูกบอลออกกำลังกายแทนเก้าอี้ทำงานช่วยให้กล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวของคุณทำงานและเผาผลาญแคลอรี่ในขณะที่คุณนั่งอยู่กับที่ มันคือการออกกำลังกายโดยไม่ต้องออกกำลังกาย! จากการศึกษางานวิจัยหลายชิ้นสรุปได้ว่าประโยชน์ของการนั่งบนลูกบอลออกกำลังแทนที่จะเป็นเก้าอี้การยศาสตร์นั้นน้อยมาก และอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณและเป็นอันตรายในที่ทำงาน คำแนะนำที่ควรคือควรใช้ลูกบอลที่โรงยิมไม่ใช่ที่สำนักงาน


แต่มีข้อมูลที่สำคัญมากที่เกี่ยวกับผลเสียของพฤติกรรมที่ไม่ค่อยขยับตัวโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทำมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง ดังที่เรากล่าวไว้ (ดูประเด็นสำคัญ #2 ด้านบน) ร่างกายของคุณถูกสร้างมาเพื่อการเคลื่อนไหว การวิเคราะห์จากการศึกษาระยะยาวชิ้นหนึ่งแสดงให้เห็นว่าการออกกำลังกายในระดับความหนักปานกลาง 65-70 นาทีต่อวันเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อชดเชยการนั่งทำงานในออฟฟิศที่นานเกินไป คุณควรหยุดพักจากการนั่งทุกๆ 30 นาที โดยใส่การแจ้งเตือนลงในแอปโทรศัพท์หรืออุปกรณ์แทรคฟิตเนสของคุณ

ประเด็นสำคัญ #4: อย่านั่งแล้วทำตัวเหมือนยุ่ง ลุกขึ้นและเคลื่อนไหวให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ สุขภาพของคุณขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหว